ช่อง 5 เหมือนมหาวิทยาลัยค่ะ มีโอกาสเรียนตามสาขาวิชาหลัก และจะไปซิทอินวิชาอื่นด้วยก็ได้
อย่างตอนเด็กๆ เรียนเอกการแสดง โทวาทการ ก็เคยเอาตัวเองไปแหมะคลาสจิตวิทยา สนุกดี
ต่างกันตรงที่ผู้ใหญ่จะเป็นฝ่าย”ให้โอกาส” เรา ได้ลองไปทำรายการ ไม่ใช่เราเป็นฝ่ายที่เลือกตามความสนใจเหมือนตอนเรียน
ซึ่งมันคือสุดยอดความท้าทายในการทำงาน
สมัยก่อนทีวีดิจิตอล มีกันไม่กี่ช่องค่ะ ผู้จัดยังไม่แยกย้ายไปทำช่องเอง รายการข่าวก็จะมีผู้ร่วมผลิตมากหน้าหลายตา เราจะได้พบเจอพิธีกรนอกเยอะมาก ได้แลกเปลี่ยน ได้ครูพักลักจำ ได้ประสบการณ์หลากหลายรูปแบบ ความนอบน้อม พร้อมรับคำวิจารณ์ทำให้ปรับและพัฒนาเรื่อยๆ จนได้ทำรายการกับคนเก่งๆ เหล่านั้นตลอด การไปทำงานในทุกวัน จึงเต็มไปด้วยความสนุกสนาน และต้องแอคทีฟ
ตัดกลับมาปัจจุบัน ก็พึงระลึกอยู่ตลอดว่าความรู้ที่สั่งสมในการทำงานก็ยังใช้ได้จนทุกวันนี้ ทั้งอ่านข่าวกระดานหลัก หรือแม้แต่การทำรายการ สามารถที่จะให้คำแนะนำ หรือถ่ายทอดความรู้ไปยังคนอื่นๆ บ้าง
แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้การทำงานที่จำมาใช้คือ
…..การวางตัว ….
ยิ่งพิธีกรที่มีความรู้ยิ่งมีเมตตา
ยิ่งเป็นดาราที่มีชื่อเสียงยิ่งเป็นกันเอง
ยิ่งร่ำรวยใหญ่โตยิ่งถ่อมตนไม่ข่มคน
เนื้อแท้คนเรายากจะรู้ได้ แต่เมื่อทำงานร่วมกัน ความเป็นกัลยาณมิตรต่อกันจะทำให้เราวางใจต่อกันได้
เมื่อสนิทใจก็พูดคุยกันได้ตักเตือนกันได้ ช่วยกันปรับจูนให้เคมีของรายการลงตัว ยิ่งทำจึงยิ่งดี ยิ่งดียิ่งสนุก ยิ่งสนุกยิ่งมีแพชชั่น
ภาพเก่าย้อนขึ้นมาในเฟสบุ๊ค ก็ชวนทำให้นึกถึงบรรยากาศเดิมที่ดูเหมือนเพิ่งผ่านไป